วันที่ 20 สิงหาคม 2562 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมหารือการค้าเพื่อส่งออกโคเนื้อไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายอำพันธุ์   เวฬุตันติ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นายสมชาย ดวงเจริญ ผู้ประกอบการบริษัท LS trading export import Co Ltd ฝ่ายลาว และนายหยางเจียง ผู้จัดการบริษัท LS chengkang ฝ่ายจีน  ณ ห้องประชุม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า การหารือกันในวันนี้ ทั้ง 3 ฝ่าย ต่างมีความยินดีในการค้าโคเนื้อร่วมกัน

 

             อย่างไรก็ตามไทยกับจีนยังไม่สามารถเจรจาการค้าได้โดยตรง จึงใช้บริษัทของลาว ซึ่งเป็นบริษัทลูกจากจีนเป็นตัวกลางในการส่งต่อโคเนื้อของไทย พร้อมกันนี้ จีนได้กำหนดคุณสมบัติของโคที่จะรับซื้อดังนี้

  1. จะต้องเป็นลูกผสมอเมริกันบราห์มัน หรือลูกผสมยุโรปทุกสายพันธุ์ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 350 – 400 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 100 บาท ส่งออก วันละ 2,000 ตัว โดยลาวจะนำโคจากไทยไปเลี้ยงต่ออีก 45 วัน ที่คอกโคขุนเพื่อเตรียมน้ำหนักของโค จากนั้นเข้าคอกกักกันโรคอีก 30 วัน รวม 75 วัน จึงจะสามารถส่งข้ามไปจีนได้
  2. กรมปศุสัตว์มีหน้าที่ตรวจสารเร่งเนื้อแดง และ โคต้องไม่มีรอยโรคปากและเท้าเปื่อย
  3. สัตวแพทย์ สปป.ลาว จะเดินทางมาตรวจคอกกักสัตว์ที่ไทยก่อนมีการส่งออก
  4. ให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมไทย ลาว เพื่อดำเนินการต่อไป

 

        “สำหรับบทบาทหน้าที่ของไทย จะวางแผนเตรียมการในกระบวนการผลิต การรวมกลุ่มเกษตรกร หาพื้นที่เพื่อวางฐานการผลิต ซึ่งขณะนี้ได้มีนโยบายที่จะให้มีคอกขุนกลาง เลี้ยงโคจำนวน 1,000 ตัวในพื้นที่เป้าหมายแต่ละจังหวัด เพื่อเป็นทั้งคอกขุนในช่วงที่ต้องเพิ่มน้ำหนักโคให้ได้ตามคุณสมบัติที่จีนกำหนด ขณะเดียวกันต้องเป็นคอกมาตรฐานกักกันโรค และได้มารตฐานฟาร์มโคเนื้อเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศอีกด้วย” นายประภัตร กล่าว

 

 

ที่มา : เว็บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

          เว็บไซต์คมชัดลึก